บทความที่ได้รับความนิยม

วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2554

ประวัติของ Yves Saint Laurent

         
           อีฟ แซงต์ โลรองต์ (Yves Saint Laurent Yves หรือ Henri Donat Mathieu-Saint-Laurent)เป็นคนอัลจีเรียโดยกำเนิด แต่ทว่าได้ไปเป็นที่รู้จักและโด่งดังในวงการแฟชั่นในประเทศฝรั่งเศสและได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในตำนานผู้ให้กำเนิดแฟชั่นของประเทศฝรั่งเศสในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 ในปี พ.ศ. 2528 Caroline Rennolds Milbank ได้กล่าวถึงอีฟว่าเป็นดีไซเนอร์คนเดียวในรอบยี่สิบห้าปีที่ว่ามีชื่อเสียงและโด่งดังมาอย่างสม่ำเสมอ
อีฟ แซงต์ โลรองต์ เกิดที่เมืองโอราน ประเทศอัลจีเรียซึ่ง ณ เวลานั้นเมืองโอรานนั้นได้เป็นเมืองในการปกครองของประเทศฝรั่งเศส ครอบครัวโลรองต์นั้นได้นับว่าเป็นครอบครัวที่มีความมั่งคังเป็นอย่างมาก คุณพ่อของอีฟนั้นได้สืบสายเลือดมาจากท่านบารอน Mathieu de Mauvieres ผู้ที่เป็นเจ้าของบริษัทประกันและเจ้าของเครือโรงหนัง คุณแม่ของอีฟนั้นเป็นลูกสาวของวิศกรชาวเบลเยียมกับภรรยาชาวสเปนซึ่งคุณแม่นั้นเป็นผู้ที่ถ่ายทอดสายเลือดทางด้านแฟชั่นในแก่อีฟ อีฟเป็นลูกชายคนโตของครอบครัวโลรองต์และมีน้องเป็นผู้หญิงอีกสองคน
           อีฟได้เคยกล่าวกับนักข่าวคนหนึ่งว่า ในช่วงวัยเด็กของเขา เขามักจะโดนเพื่อนร่วมชั้นกลั่นแกล้งอยู่เสมอ และทุกครั้งที่เขาโดนแกล้ง เขาจะคอยบอกตัวเองอยู่เสมอว่า ”วันหนึ่งฉันจะต้องโด่งดังให้ได้และนี้คือการเอาคืนของฉัน” อีฟนั้นได้เจอห้องๆหนึ่งภายในบ้านซึ่งเป็นห้องว่างๆที่คุณพ่อและคุณแม่ของเขาได้ให้ยืมในการแสดงบทละครของ Moliere และ Giraudoux เพื่อแสดงให้ครอบครัวได้รับชม หลังจากนั้นมาอีฟได้เริ่มศึกษาเกี่ยวกับการแสดงละครเวทีจากนิตยาสาร Vogue ของประเทศฝรั่งเศสและได้หลงไหลในบทละครเวที แต่ทว่าอีฟก็ยังได้เริ่มหลงไหลในชุดแต่งกายสิ่งใช้ประกอบละครเวทีอีกด้วย และการที่เขาได้อ่านนิตยาสาร Vogue นั้นได้ทำให้เขาค้นพบตัวเองในการออกแบบเสื้อผ้า
           ในปี 2496 อีฟได้ส่งแบบร่างเสื้อผ้าเป็นจำนวนสามรูปเข้าประกวดในโครงการ Young Fashion Designers ซึ่งจัดโดย International Wool Secretariat และในการประกวดครั้งนั้น อีฟได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่สามและได้รับเชิญให้ไปร่วมพิธีรับรางวัลที่ประเทศฝรั่งเศสในเดือนธันวาคมของปีนั้น ในระหว่างที่อีฟและคุณแม่ได้เดินไปประเทศฝรั่งเศส พวกเขาได้พบกับ Michel de Brunhoff ซึ่งเป็นบรรณาธิการของนิตยสาร Vogue ฉบับฝรั่งเศส และ Brunhoff คนนี้นั้นผู้ที่ชอบให้การสนับสนุนความสามารถใหม่ๆนั้นได้ประทับใจในรูปร่างสามอันของอีฟเป็นอย่างมาก และได้แนะนำให้อีฟมาเรียนต่อที่ Chambre Syndicale de la Couture ซึ่งอีฟก็ได้ตัดสินใจทำตามคำแนะนำของ Brunhoff และตัดสินใจมาเรียนต่อที่ประเทศฝรั่งเศส แต่หลังจากเรียนที่ Chambre Syndicale de la Couture ได้ไม่นานอีฟได้ค้นพบว่าตัวเองไม่ได้ชอบเรียน ณ ที่นี้จึงได้ตัดสินใจลาออกจากการเรียน
หลังจากนั้นในปีเดียวกันอีฟได้ส่งผลงานเข้าประกวดในงานเดียวกันกับคราวที่แล้วและคราวนี้อีฟได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับที่หนึ่ง หลังจากอีฟชนะเลิศได้ไม่นานนั้น อีฟก็ได้นำรูปวาดของเขาไปเสนอให้ Brunhofff ดูซึ่งเมื่อ Brunhoff ได้ดูรูปของอีฟนั้นเขาก็ได้เห็นความคล้ายคลึงในการออกแบบของอีฟกับ Christian Dior เขาจึงได้ส่งอีฟไปหา Dior ซึ่งได้รับอีฟเข้าทำงานในทันที
           ถึงแม้ว่า Dior จะรับรู้ถึงพรสวรรคในการออกแบบของอีฟทันทีแต่ว่า Dior นั้นได้ให้อีฟทำงานธรรมดาๆเช่น งานตกแต่งสตุดิโอและงานออกแบบเครื่องประดับ อีฟได้รับอนุญาตให้ได้ส่งแบบร่างสำหรับ Couture collection ในทุกๆฤดูซึ่งทำให้เขาได้รับการยินยอมจาก Dior มากขึ้น ในเดือนสิงหาคม ปี 2500 Dior ได้ไปพบกับคุณแม่ของอีฟและบอกข่าวดีว่าเขาได้เลือกอีฟให้เป็นผู้สืบทอดแทนเขาในการออกแบบ โดยไม่มีใครคาดคิดว่าในเดือนตุลาคมนั้น Dior ได้เสียชิวิตลงด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ในวัยเพียงแค่ 52 ปี
          อีฟต้องดำรงตำแหน่งหัวหน้าผู้ออกแบบของห้องเสื้อ Dior ตั้งแต่วัยเพียง 21 ปี ผลงานออกแบบคอเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิในปี 2001 ถือเป็นคอเลคชั่นที่สามารถช่วยพยุงห้องเสื้อ Dior ให้ไม่ล้มละลายได้ สไตล์การออกแบบเสื้อผ้าในคอเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิของอีฟนั้นได้ทำให้อีฟโด่งดังไปทั่วโลกและชุดออกแบบของอีฟนั้นได้กลายมาเป็นที่รู้จักกันในนาม trapeze dress แล้วอีฟก็ได้ทำการย่อนามสกุลของเขาให้เหลือแค่ Saint Laurent เพื่อให้นักข่าวต่างชาติจำและสะกดนามสกุลเขาได้ง่ายขึ้น
แต่ทว่าคอเลคชั่นฤดูใบไม้ร่วงในปีเดียวกันของอีฟนั้นไม่ได้รับการตอบรับที่ดีเท่าคอเลคชั่นที่ผ่านมาและหลังจากนั้นไม่นานคอเลคชั่นต่อๆมาของ Dior นั้นก็ได้ถูกโจมตีโดยนักข่าวและสื่อมวลชนมากมาย ในปี 2003 อีฟนั้นถูกเรียกตัวกลับให้ไปร่วมรบกับกองทัพฝรั่งเศสในสงครามประกาศอิสรภาพสำหรับประเทศอัลจิเรีย แต่ ณ จริงๆแล้วอีฟควรจะถูกเรียกให้ไปเข้าร่วมรบสงครามตั้งแต่สองปีที่แล้วแต่เจ้าของห้องเสื้อ Dior ผู้มีอิทธพลได้ทำการต่อรองกับรัฐบาลฝรั่งเศสเอาไว้.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น